แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 4 – 1 โบลตัน วันเดอร์เรอร์ส

ภาพการแข่งขัน | วีดีโอคลิป
สนาม โอลด์ แทรฟฟอร์ด, อังกฤษ
ผู้ชมในสนาม 76,058 คน
รายการ พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ
เวลา 19.45 น. วันเสาร์ที่ 17 มีนาคม 2550
ผู้ตัดสิน อลัน ไวลี่ย์
ด้วย 2 ประตูจากพาร์ค จีซุง และอีก 2 ประตูจากเวย์น รูนี่ย์ ช่วยให้แมนฯ ยูไนเต็ด เอาชนะโบลตัน ไปได้ 4 – 1 เก็บ 3 แต้มและรักษาคะแนนที่นำเชลซี อยู่ 6 แต้มเท่าเดิม
แต่จากชัยชนะดังกล่าว แมนฯ ยูไนเต็ด ต้องเสียแกรี่ เนวิลล์ กัปตันทีมไปตั้งแต่ต้นเกมเพราะได้รับบาดเจ็บที่ข้อเท้าจากจังหวะที่ปะทะกับแกรี่ สปีด
โดยเกมนัดนี้ มีสตีฟ แม็คคลาเรน โค้ชทีมชาติอังกฤษเข้าชมด้วย ซึ่งเขาก็ได้รับข่าวร้ายตั้งแต่ 7 นาทีแรกของเกม เมื่อเป็นไปได้ว่าทีมชาติอังกฤษจะไม่มีแกรี่ เนวิลล์ ในวันเสาร์หน้า
เริ่มเกมในครึ่งแรกแมนฯ ยูไนเต็ด เจ้าบ้านไม่ปล่อยโอกาสให้ทีมเยือนเล่นเกมของพวกเขาได้มากนัก และทีมปีศาจแดงก็รักษาเกมบุกโดยตลอด รวมทั้งฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยมของคริสเตียโน่ โรนัลโด้ ช่วยให้ทีมบุกได้อย่างต่อเนื่อง
แมนฯ ยูไนเต็ดน่าจะได้ประตูขึ้นนำก่อนในนาทีที่ 6 จากจังหวะที่โรนัลโด้ประสานงานกับไฮน์เซ่ ทางฝั่งซ้ายแล้วเปิดไปให้กับกิ๊กส์ ต่อบอลเข้ากลางให้พาร์ค แต่พาร์คกลับยิงข้ามคานไปอย่างน่าเสียดาย ด้วยระยะเพียง 6 หลา
แต่จากนั้นอีก 8 นาที ปีกทีมชาติโปรตุเกสทำเกมให้แมนฯ ยูไนเต็ด ขึ้นนำไปก่อนในนาทีที่ 14 เมื่อเขาได้จังหวะลากบอลไปจนถึงเส้นหลัง และได้เปิดกลับเข้ากลางให้พาร์คยิงเข้าประตูไป แมนฯ ยูไนเต็ด ขึ้นนำ 1 – 0
หลังจากนั้นอีกเพียง 3 นาทีโรนัลโด้ ก็โชว์ฟอร์มเด็ดอีกครั้งเมื่อเขา ลากบอลผ่านกองหลังจากโบลตัน และจ่ายบอลที่สวยงามให้รูนี่ย์ ยิงผ่านมือ ยุสซี่ ยัสเคไลเน่น เข้าประตูไป แมนฯ ยูไนเต็ดขึ้นนำ 2 – 0 ซึ่งประตูนี้เป็นประตูที่ 50 ที่เวย์น รูนี่ย์ ยิงให้แมนฯ ยูไนเต็ด
และแมนฯ ยูไนเต็ดก็แทบจะมั่นใจในชัยชนะได้เลยเมื่อได้ประตูที่ 3 ตามมาในนาทีที่ 25 ในจังหวะที่โรนัลโด้ได้ยิงจากระยะ 20 หลา และยุสซี่ ยัสเคไลเน่น ปัดบอลออกมาได้ แต่บอลกลับไปเข้าทางพาร์คซึ่งอยู่ถูกที่ถูกเวลา ได้ยิงซ้ำเข้าประตูไป แมนฯ ยูไนเต็ดขึ้นนำ 3 – 0
หลังจากถูกยิงนำไปถึง 3 ประตู แซม อัลลาร์ไดซ์ จึงเริ่มปรับเกมโดยส่ง ดิยุฟ ลงเล่นแทนพีเดอร์เซ่น ในนาทีที่ 28 แต่ตลอดช่วงเวลาที่เหลือในครึ่งแรก แมนฯ ยูไนเต็ดก็ยังครองเกมไว้ได้ตลอด ทำให้โบลตันไม่มีจังหวะที่จะบุกมากนัก หมดครึ่งแรกแมนฯ ยูไนเต็ด นำอยู่ 3 – 0
เริ่มเกมครึ่งหลัง โบลตันเกือบตีไข่แตกได้ตั้งแต่เริ่มเกมด้วยลูกยิงที่น่าจะได้ประตูของอเนลก้า แต่ก็ยิงข้ามคานไปอย่างน่าเสียดาย
หลังจากนั้นแมนฯ ยูไนเต็ดก็เกือบทำประตูที่ 4 ได้ในนาทีที่ 48 จากลูกเปิดของกาเบรียล ไฮน์เซ่ แต่โรนัลโด้ ก็ไม่สามารถจับบอลได้ ทำให้พลาดการทำประตูไป
เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เริ่มมั่นใจว่าลูกทีมจะสามารถคว้า 3 แต้มมาให้ได้จึงเริ่มเปลี่ยนตัวผู้เล่นสำคัญๆ มาพักเพื่อเตรียมลงสนามในวันจันทร์นี้ที่จะพบกับมิดเดิ้ลสโบรซ์ ในศึกเอฟเอ คัพ โดยเขาส่งริชาร์ดสันลงเล่นแทนไรอัน กิ๊กส์ หลังจากนั้น เมื่อเหลือเวลาอีก 20 นาทีของเกม เขาก็ส่งอลัน สมิธ ลงเล่นแทนโรนัลโด้
หลังจากลงเล่นได้ 4 นาที สมิธก็มีส่วนร่วมในประตูที่ 4 ของทีมเมื่อเขาเปิดบอลให้รูนี่ย์ ได้ยิงด้วยขวาเข้าประตูไปอย่างสวยงาม อย่างที่ยัสเคไลเน่น หมดสิทธิ์ป้องกัน
เกมยังคงดำเนินต่อไปแต่ไม่มีอะไรเกิดขึ้นมาก เนื่องจากแมนฯ ยูไนเต็ดนำถึง 4 – 0 แล้วและนั่นก็เป็นที่แน่นอนแล้วว่าพวกเขาจะสามารถเก็บ 3 แต้มได้ในนัดนี้แน่นอน
จนกระทั่งนาทีที่ 87 แมนฯ ยูไนเต็ด กลับเสียจุดโทษอย่างที่ไม่น่าจะเป็นจุดโทษ เมื่อผู้ตัดสินบอกว่าเนมานย่า วิดิช ทำฟาวล์ อับดุลลาเย่ ฟาย ในกรอบเขตโทษ และเป่าให้เป็นจุดโทษของโบลตัน
แกรี่ สปีดรับหน้าที่สังหารจุดโทษ เขายิงลูกตรงกลางประตู ซึ่งเกือบจะไปเป็นประตูเพราะบอลตรงตัวผู้รักษาประตูแมนฯ ยูไนเต็ด แต่โชคดีที่บอลยังลอดตัวโทมัสซ์ คุสซ์แซค เข้าประตูไป โบลตันตามมาเป็น 4 – 1 แต่ช่วงเวลาที่เหลือก็ไม่สามารถทำอะไรกันเพิ่มได้ แมนฯ ยูไนเต็ด จึงเก็บชัยชนะไป 4 – 1 ยังคงนำเป็นจ่าฝูงด้วยคะแนนที่ห่างเชลซี อยู่ 6 แต้มเท่าเดิม (บรรยายเกมโดย โฮปอล)
รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
โทมัสซ์ คุสซ์แซค 29
แกรี่ เนวิลล์ 2
ริโอ เฟอร์ดินานด์ 5
เนมานย่า วิดิช 15
กาเบรียล ไฮน์เซ่ 4
จอห์น โอเชีย 22
คริสเตียโน่ โรนัลโด้ 7
ไมเคิล คาร์ริค 16
ไรอัน กิ๊กส์ 11
พาร์ค จีซุง 13 ( น. 14, 25)
เวย์น รูนี่ย์ 8 ( น. 17, 74)
สำรอง
ทอม ฮีตั้น 38
ปาทริซ เอฟร่า 3
เวส บราวน์ 6 น. 11 แกรี่ เนวิลล์ 2
คีแรน ริชาร์ดสัน 23 ( น. 65) น.56 ไรอัน กิ๊กส์ 11
อลัน สมิธ 14 น. 70 คริสเตียโน่ โรนัลโด้ 7
โบลตัน วันเดอร์เรอร์ส
ยุสซี่ ยัสเคไลเน่น 22
นิคกี้ ฮันท์ 2
ทัล เบน ฮาอิม 26
อับดุลลาเย่ ฟาย 25
ริคาร์โด้ การ์ดเนอร์ 11 ( น. 69)
เควิน โนแลน 4
อิบาน คัมโป 8 ( น. 67)
แกรี่ สปีด 6 ( จุดโทษ น. 87)
เควิน เดวี่ส์ 14
นิโคลาส อเนลก้า 39
เฮนริก พีเดอร์เซ่น 9

สำรอง
เอียน วอล์คเกอร์ 12
สเตลิออส แยนนาโคปูลอส 7
เดวิด ธอมป์สัน 15 น. 78 อิบาน คัมโป 8
อันดรานิก เตย์มูรีอาน 16 น. 52 เควิน เดวี่ส์ 14
เอล ฮัดจิ ดิยุฟ 21 น. 28 เฮนริก พีเดอร์เซ่น 9
สถิติของเกม
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ประตู 4, ยิงตรงกรอบ 7, ยิงหลุดกรอบ 8, เตะมุม 1, ฟาวล์ 16, ล้ำหน้า 3, ใบเหลือง 1, การครองบอล 57%
โบลตัน วันเดอร์เรอร์ส ประตู 1, ยิงตรงกรอบ 1, ยิงหลุดกรอบ 7, โดนบล็อค 1, เตะมุม 5, ฟาวล์ 13, ล้ำหน้า 2, ใบเหลือง 2, การครองบอล 43%
คะแนนความสามารถ
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โทมัสซ์ คุสซ์แซค 6, แกรี่ เนวิลล์ 5, ริโอ เฟอร์ดินานด์ 7, เนมานย่า วิดิช 7, กาเบรียล ไฮน์เซ่ 7, จอห์น โอเชีย 6, คริสเตียโน่ โรนัลโด้ 9, ไมเคิล คาร์ริค 6, ไรอัน กิ๊กส์ 7, พาร์ค จีซุง 8, เวย์น รูนี่ย์ 8, เวส บราวน์ (สำรอง) 6, คีแรน ริชาร์ดสัน (สำรอง) 5, อลัน สมิธ (สำรอง) 7
โบลตัน วันเดอร์เรอร์ส ยุสซี่ ยัสเคไลเน่น 5, นิคกี้ ฮันท์ 5, ทัล เบน ฮาอิม 4, อับดุลลาเย่ ฟาย 6, ริคาร์โด้ การ์ดเนอร์ 6, เควิน โนแลน 5, อิบาน คัมโป 6, แกรี่ สปีด 6, เควิน เดวี่ส์ 6, นิโคลาส อเนลก้า 5, เฮนริก พีเดอร์เซ่น 5, เดวิด ธอมป์สัน (สำรอง) 5, อันดรานิก เตย์มูรีอาน (สำรอง) 6, เอล ฮัดจิ ดิยุฟ (สำรอง) 7
Por

Related Posts