รีพอร์ต
เวย์น รูนี่ย์ พังประตูที่ 150 ในพรีเมียร์ ลีก ให้กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้สำเร็จ ทำให้ทีมแชมป์เก่าพลิกสถานการณ์กลับมาเอาชนะได้อย่างสุดตื่นเต้นในเกมบ็อกซิ่ง เดย์ ที่สนามเคซี สเตเดี้ยม
เริ่มเกมมาได้แค่ 3 นาที เป็นทางฮัลล์ ซิตี้ เจ้าถิ่นที่ออกนำไปก่อน เจมส์ เชสเตอร์ อดีตนักเตะเยาวชนของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้จังหวะหวดเข้าประตูไปจากลูกเตะมุม จากนั้นทีมปีศาจแดงก็เร่งเกมหวังทวงประตูคืนอย่างทันควัน โดยเน้นโจมตีทางด้านกราบขวา
แต่แล้วในนาทีที่ 11 ฮัลล์ ซิตี้ ก็นำห่างออกไปเป็น 2-0 เมื่อแนวรับทีมปีศาจแดงสกัดไม่ขาดในกรอบเขตโทษ บอลมาเข้าทาง เดวิด เมย์เลอร์ ที่ยิงแบบไม่เต็มเท้าจากระยะ 6 หลาหน้าปากประตู แต่บอลกลับไปโดนขา จอนนี่ อีแวนส์ เปลี่ยนทางผ่าน ดาบิด เด เคอา เข้าประตูไป
จากนั้นไม่นาน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็ต้องทำการเปลี่ยนตัวอย่างรวดเร็ว โดยเอา ราฟาเอล ดา ซิลวา ที่ได้รับบาดเจ็บออก และส่ง แอดนาน ยานูซาย ลงสนาม พร้อมกับถอย อันโตนิโอ วาเลนเซีย ลงไปยืนเป็นแบ็คขวา
และทีมเยือนก็มาตีไข่แตกได้สำเร็จ จากจังหวะฟรีคิกของ เวย์น รูนี่ย์ เป็นทางด้าน คริส สมอลลิ่ง ที่เติมขึ้นมาโขกเข้าประตูไป แถมยังเกือบตีเสมอได้อีกต่างหากจากจังหวะของทั้ง แดนนี่ เวลเบ็ค และ ทอม เคลฟเวอร์ลี่ย์
หลังจากที่ยิงไม่ได้มา 3 เกมติดในพรีเมียร์ ลีก ในที่สุด เวย์น รูนี่ย์ ก็มาพังประตูได้สำเร็จให้ทีมตีเสมอเป็น 2-2 จังหวะนี้เขาได้บอลที่ส่งคืนกลับมาให้จากเวลเบ็ค และวาซซ่าก็จัดการซัดลูกย้อยเข้าไปตุงตาข่ายแบบสุดสวย มันยังทำให้เขายิงประตูในพรีเมียร์ ลีก ได้ครบ 150 ประตูกับสโมสรเดียวเป็นคนที่ 2 นอกเหนือจาก เธียร์รี่ อองรี อีกด้วย
เกมผ่านมาครึ่งชั่วโมง ยานูซายมาโดนจดชื่อไปเป็นคนแรกของทางทีมเยือน หลังจากที่ไปทำฟาวล์ใส่ อาห์เม็ด เอลโมฮามาดี้ย์ แถวมุมธง จากนั้นในจังหวะบุก ยานูซายก็มาได้จังหวะหักเข้าซ้ายจากกรอบเขตโทษฝั่งขวา ก่อนที่จะยิงไปติดบล็อค
ช่วงท้ายครึ่งแรก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นฝ่ายที่ทำได้ดีกว่า แต่ก็ไม่มีประตูเพิ่ม หลังจากหมดช่วงทดเวลาบาดเจ็บ 3 นาที จึงยังเสมอกันอยู่ที่สกอร์ 2-2
ก่อนเริ่มครึ่งหลัง ฮัลล์ ซิตี้ ต้องเปลี่ยนตัวผู้รักษาประตู โดยเอา สตีฟ ฮาร์เปอร์ ลงมาเล่นแทน อัลลัน แม็คเกรเกอร์ ที่มีอาการบาดเจ็บ และรูปเกมหลังจากกลับมาลงเล่นกันใหม่ก็ยังเป็นทีมปีศาจแดงที่เปิดเกมบุกเข้าใส่อย่างสนุก
นาทีที่ 60 อันโตนิโอ วาเลนเซีย มาโดนใบเหลืองไป หลังจากที่ไปทำฟาวล์ใส่ ยานนิค ซักโบ จากนั้นนาทีต่อมา ดาร์เรน เฟล็ตเชอร์ ที่ได้ลงตัวจริงให้กับทีมชุดใหญ่เป็นครั้งแรกหลังหายกลับมาจากอาการบาดเจ็บก็ถูก เดวิด มอยส์ เปลี่ยนตัวออกไปนั่งพัก พร้อมกับส่ง ฮาเวียร์ เฮอร์นานเดซ ลงมาเล่นแทน
ฮัลล์ ซิตี้ เกือบที่จะมาได้ประตูขึ้นนำอีกครั้ง หลังจากที่ อเล็กซ์ บรูซ ได้ขึ้นโขกจากระยะ 6 หลา แต่บอลกลับไปชนคานกระดอนลงพื้น แล้วก็ถูกสกัดออกมาพ้นจังหวะอันตราย
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มาได้ประตูขึ้นนำในนาทีที่ 64 แอชลี่ย์ ยัง ได้ครอสบอลจากทางฝั่งขวาเข้ามาในกรอบเขตโทษ จากการที่ถูกรูนี่ย์เข้ามากดดัน ทำให้ เจมส์ เชสเตอร์ โขกสกัดผิดเหลี่ยมเข้าประตูตัวเองไป
รูนี่ย์มารับใบเหลืองไปอีกคน และในนาทีที่ 76 ชิชาริโต้ก็ตัดบอลได้จากแดนกลาง ก่อนที่จะจ่ายต่อมาให้กับเวลเบ็ค ซึ่งยิงไปติดบล็อคแนวรับเจ้าถิ่น จากนั้น ไมเคิล คาร์ริค ที่หายหน้าหายตาไปนานจากอาการบาดเจ็บก็ถูกเปลี่ยนตัวลงมาเล่นแทน แอชลี่ย์ ยัง เพื่อเน้นรักษาสกอร์
เข้าสู่ช่วง 3 นาทีก่อนหมดเวลาปกติ ซักโบได้บอลทางริมเส้นฝั่งขวา ก่อนที่จะครอสไปให้ แดนนี่ เกรแฮม โขกไปเข้ามือ เด เคอา ที่รับเอาไว้ได้แบบไม่ยากเย็นนัก
จากนั้นทีมปีศาจแดงก็ต้องเหลือตัวผู้เล่นเพียงแค่ 10 คน อันโตนิโอ วาเลนเซีย ไปทำฟาวล์ และเตะบอลทิ้ง ทำให้ผู้ตัดสินควักใบเหลืองที่ 2 เป็นใบแดงไล่ออกจากสนามทันที
ช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีที่ 2 จากทั้งหมด 3 นาที ฮัลล์ ซิตี้ เกือบจะตีเสมอได้แบบสุดๆ แต่ก็เป็น ดาบิด เด เคอา ที่ออกมาปิดมุมเซฟจังหวะของ แดนนี่ เกรแฮม ได้อย่างสุดยอด ก่อนที่จะชกบอลเคลียร์ลูกออกหลังไปอีก จบเกมจึงเป็นทีมเยือนที่บุกมาเอาชนะไป 2-3 ถือเป็นของขวัญวันคริสต์มาสที่น่าประทับใจสำหรับแฟนๆ ปีศาจแดงอีกครั้งหนึ่ง
สถิติ